อาณาจักรพุกาม ดินแดนแห่งเจดีย์ 4000 องค์
อาณาจักรพุกาม ดินแดนแห่งเจดีย์ 4000 องค์
พุกาม อยู่ทางทิศตะวันตกเฉียงใต้ห่างจาก เมืองมัณฑะเลย์ ประมาณ 145 กิโลเมตรพุกามเป็นแหล่งท่องเที่ยวเชิงศิลปวัฒนธรรมและประวัติศาสตร์มีนักท่องเที่ยวจากทั่วทุกมุมโลกมาเยือนที่นี่เสมอทุกช่วงปีโดยเฉพาะนักท่องเที่ยวจากแถบเอเชียด้วยกันซึ่งประเทศไทยก็เป็นหนึ่งในนั้นที่นิยมแวะเวียนไปเยี่ยมเยียนสม่ำเสมอน่าแปลกใจว่าทำไมพุกามจึงไม่ได้รับการรับรองให้เป็นเมืองมรดกโลกทางวัฒนธรรมของยูเนสโกทั้งที่มีเจดีย์สวย ๆ มากมาย
.jpg)
พุกาม ได้ชื่อว่าเป็นเมืองแห่งทะเลเจดีย์ หรือดินแดนแห่งเจดีย์สี่พันองค์ เพราะในสมัยรุ่งเรืองเคยมีเจดีย์มากมายถึง 4,446 องค์ (บ้างก็ว่าเป็นดินแดนแห่งเจดีย์หมื่นองค์) แต่เมื่อกาลเวลาผ่านไปเนิ่นนานทำให้เจดีย์เกิดความเสียหายจำนวนเจดีย์จึงลดน้อยลงไปเรื่อย ๆ ล่าสุดก็ได้เกิดแผ่นดินไหวเมื่อวันที่ 24 สิงหาคม 2559 มีความรุนแรงถึง 6.8 ตามมาตราริกเตอร์จึงทำให้เจดีย์บางองค์เกิดการเสียหายและพังทลายจากแรงสั่นสะเทือนเพิ่มขึ้นไปอีกจึงทำให้ปัจจุบันอาจจะเหลือแค่เพียง 2,000 กว่าองค์เท่านั้น
เจดีย์แห่งแรกของพุกามคือ เจดีย์ชเวซิกอง “ชเวสิกอง” มีหมายความว่า “เจดีย์ทองแห่งชัยชนะ” (ชเว = ทอง) สร้างโดย พระเจ้าอโนรธามังช่อ กษัตริย์แห่งอาณาจักรพุกาม ตำนานกล่าวว่าช้างเผือกเสี่ยงทายของพระองค์เดินมาหยุด ณ หาดทรายริมแม่น้ำอิระวดีแห่งนี้ พระองค์จึงทรงให้ก่อสร้างเจดีย์ซึ่งใช้ระยะเวลาก่อสร้างนานถึง 3 รัชกาลเลยทีเดียว
เจดีย์ชเวสิกอง ซึ่งเป็นสถูปพม่าแท้ปิดทององค์ขนาดใหญ่ ภายในประดิษฐานพระทันตธาตุของพระพุทธเจ้า บางตำนานก็ว่า ภายในเจดีย์บรรจุพระเขี้ยวแก้วและพระสารีริกธาตุ โดยอัญเชิญมาจากลังกาเจดีย์ชเวสิกอง เป็นพระเจดีย์ที่สำคัญเป็นอันดับ 2 ของพม่า รองจากพระมหาธาตุเจดีย์ชเวดากอง ตัวเจดีย์เป็นทรงระฆังคว่ำ มีแถบคาดรอบองค์ระฆัง มีสิงห์ 1 หัวแยกเป็น 2 ตัวยืนประกบอยู่ฐานเจดีย์ตรงมุมทั้ง 4ฐานเจดีย์มีแผ่นดินเผาเคลือบเล่าเรื่องชาดกและเรียงรายด้วย ปูรณฆฏะ (หม้อน้ำแห่งความสมบูรณ์) ซึ่งเป็น สัญลักษณ์มงคลในศิลปะอินเดียโบราณ ซึ่งเปรียบเหมือนการให้โชคให้ลาภนั่นเอง
ความอัศจรรย์ของเจดีย์ชเวสิกอง
- เงาพระเจดีย์จะไม่ล้ำออกนอกฐานสี่เหลี่ยมของพระเจดีย์ (ถ้าเงาล้ำออกไป ถือว่าเป็นลางร้าย)
- ภายในเขตองค์พระเจดีย์ สามารถรองรับผู้แสวงบุญได้ไม่จำกัดจำนวน
- เมื่อตีกลองใบใหญ่จากด้านหนึ่งของพระเจดีย์ จะไม่สามารถได้ยินเสียงกลองจากด้านตรงข้าม
- ไม่ว่าฝนจะตกหนักเพียงใด จะไม่มีน้ำฝนขังอยู่ในอาณาเขตขององค์พระเจดีย์
- มีต้นพิกุลที่ออกดอกตลอดทั้งปี (ปกติจะออกปีละครั้ง)
เอกลักษณ์อย่างนึงที่มาพุกามแล้วเชื่อว่าถ้าไม่เห็นด้วยตาแสดงว่าคุณมาไม่ถึงนั่นก็คือ….
มาถึงที่แล้วอย่าลืมทดลองนั่งดูนะคะ ความรู้สึกก็จะฟินน์ไปอีกแบบ มาเมืองเก่าทั้งทีแบบนี้ต้องลองค่ะดูสิ…มีหนุ่มน้อยเอาราชรถมารอถึงหน้าที่พักเลย เรียกว่าบริการรับ-ส่งถึงที่เลยนะคะเนี่ย
นอกจากรถม้าแล้ว สิ่งที่นักท่องเที่ยวส่วนใหญ่นิยมกันก็คงจะเป็นจักรยาน ปั่นเข้าไปค่ะถ้าไม่ไหวก็นั่งจักรยานสามล้อพ่วงด้านข้าง มีคนขับ(ปั่น) ส่วนตัวก็ไม่เลวเลยนะ
ดูท่าคุณลุงนักปั่นก็คงจะไม่ไหวเหมือนกัน ปั่นขึ้นเนินแบบนี้มีหอบกันบ้างหล่ะ…ปั่นไม่ไหวก็จูงเอาเนอะลุงเนอะ
เจดีย์วิหารทัตบินยู คนไทยเรียก สัพพัญญู ซึ่งเป็นเจดีย์ที่สูงที่สุดในพุกาม มี 5 ชั้น ด้านในวิหารจะมีมุขยื่นไปทางตะวันออกด้านเดียว และมีความสูงหลายระดับ มีบันไดทางขึ้นด้านบนสำหรับถ่ายรูปมุมสูง ด้วยเกิดรอยร้าวภายในวิหารเกรงว่าจะไม่ปลอดภัยในปัจจุบันจึงได้ปิดลูกกรงไว้ไม่ให้ขึ้น
เมื่อเดินเข้ามาด้านในวิหารจะมีพระพุทธรูปเป็นระยะๆ
ด้านนอกวิหารจะมีเจดีย์ใหญ่สูงชันเท่าที่ดูด้วยตาและสัมผัสด้วยตัวเองแล้วกว่าจะปีนขึ้นไปมีขาสั่นกันบ้างหล่ะตามตำนานกล่าวไว้ว่าในตอนขนอิฐมาสร้างวิหารใหญ่ อิฐทุก ๆ 10,000 ก้อน จะถูกดึงออกมาไว้ 1 ก้อนเพื่อสร้างเจดีย์แห่งนี้ ฝรั่งเรียกเจดีย์แห่งนี้ว่า Tally Pagoda
เจดีย์ชเวซานดอร์ ซึ่งตั้งอยู่ท่ามกลางทะเลเจดีย์นับร้อยนับพัน ตัวฐานเจดีย์เป็นสีเหลี่ยม มีบันไดขึ้น 4 ด้าน ความสูง 5 ชั้น แต่ละชั้นมีทางเดินโดยรอบ
เจดีย์ชเวซานดอร์ จึงเป็นอีกหนึงเจดีย์ยอดฮิตที่นักท่องเที่ยวนิยมมานั่งชมและถ่ายรูปพระอาทิตย์ขึ้นและลง ในจุดนี้จะสามารถมองเห็นทะเลเจดีย์ได้อย่างชัดเจนถ้าจะนั่งรอชมพระอาทิตย์ตกดินพร้อมทะเลเจดีย์หล่ะก็ แนะนำให้มาถึงเสียแต่เนิ่น ๆ เพราะนักท่องเที่ยวเยอะเหลือกิน ต้องจองมุมดี ๆ เพื่อให้ได้ภาพที่สวยงาม
ตะวันใกล้จะลับขอบฟ้าแล้ว ยังพาเที่ยวไม่ครบเลย ก็มีเยอะซ่ะขนาดนั้นวันเดียวเที่ยวไม่หมดแน่ ๆและสำหรับท่านที่สนใจกรุ๊ปส่วนตัว แนะนำที่ พุกาม เลยค่ะเที่ยวซักวันสองวัน เพื่อซึมซับบรรยากาศให้ทั่วก่อนที่ซากแห่งอดีตจะค่อย ๆ เลือนหายไปตามกาลเวลา
เจดีย์แห่งแรกของพุกามคือ เจดีย์ชเวซิกอง “ชเวสิกอง” มีหมายความว่า “เจดีย์ทองแห่งชัยชนะ” (ชเว = ทอง) สร้างโดย พระเจ้าอโนรธามังช่อ กษัตริย์แห่งอาณาจักรพุกาม ตำนานกล่าวว่าช้างเผือกเสี่ยงทายของพระองค์เดินมาหยุด ณ หาดทรายริมแม่น้ำอิระวดีแห่งนี้ พระองค์จึงทรงให้ก่อสร้างเจดีย์ซึ่งใช้ระยะเวลาก่อสร้างนานถึง 3 รัชกาลเลยทีเดียว
เจดีย์ชเวสิกอง ซึ่งเป็นสถูปพม่าแท้ปิดทององค์ขนาดใหญ่ ภายในประดิษฐานพระทันตธาตุของพระพุทธเจ้า บางตำนานก็ว่า ภายในเจดีย์บรรจุพระเขี้ยวแก้วและพระสารีริกธาตุ โดยอัญเชิญมาจากลังกาเจดีย์ชเวสิกอง เป็นพระเจดีย์ที่สำคัญเป็นอันดับ 2 ของพม่า รองจากพระมหาธาตุเจดีย์ชเวดากอง ตัวเจดีย์เป็นทรงระฆังคว่ำ มีแถบคาดรอบองค์ระฆัง มีสิงห์ 1 หัวแยกเป็น 2 ตัวยืนประกบอยู่ฐานเจดีย์ตรงมุมทั้ง 4ฐานเจดีย์มีแผ่นดินเผาเคลือบเล่าเรื่องชาดกและเรียงรายด้วย ปูรณฆฏะ (หม้อน้ำแห่งความสมบูรณ์) ซึ่งเป็น สัญลักษณ์มงคลในศิลปะอินเดียโบราณ ซึ่งเปรียบเหมือนการให้โชคให้ลาภนั่นเอง
ความอัศจรรย์ของเจดีย์ชเวสิกอง
- เงาพระเจดีย์จะไม่ล้ำออกนอกฐานสี่เหลี่ยมของพระเจดีย์ (ถ้าเงาล้ำออกไป ถือว่าเป็นลางร้าย)
- ภายในเขตองค์พระเจดีย์ สามารถรองรับผู้แสวงบุญได้ไม่จำกัดจำนวน
- เมื่อตีกลองใบใหญ่จากด้านหนึ่งของพระเจดีย์ จะไม่สามารถได้ยินเสียงกลองจากด้านตรงข้าม
- ไม่ว่าฝนจะตกหนักเพียงใด จะไม่มีน้ำฝนขังอยู่ในอาณาเขตขององค์พระเจดีย์
- มีต้นพิกุลที่ออกดอกตลอดทั้งปี (ปกติจะออกปีละครั้ง)
เอกลักษณ์อย่างนึงที่มาพุกามแล้วเชื่อว่าถ้าไม่เห็นด้วยตาแสดงว่าคุณมาไม่ถึงนั่นก็คือ….
มาถึงที่แล้วอย่าลืมทดลองนั่งดูนะคะ ความรู้สึกก็จะฟินน์ไปอีกแบบ มาเมืองเก่าทั้งทีแบบนี้ต้องลองค่ะดูสิ…มีหนุ่มน้อยเอาราชรถมารอถึงหน้าที่พักเลย เรียกว่าบริการรับ-ส่งถึงที่เลยนะคะเนี่ย
นอกจากรถม้าแล้ว สิ่งที่นักท่องเที่ยวส่วนใหญ่นิยมกันก็คงจะเป็นจักรยาน ปั่นเข้าไปค่ะถ้าไม่ไหวก็นั่งจักรยานสามล้อพ่วงด้านข้าง มีคนขับ(ปั่น) ส่วนตัวก็ไม่เลวเลยนะ
ดูท่าคุณลุงนักปั่นก็คงจะไม่ไหวเหมือนกัน ปั่นขึ้นเนินแบบนี้มีหอบกันบ้างหล่ะ…ปั่นไม่ไหวก็จูงเอาเนอะลุงเนอะ
เจดีย์วิหารทัตบินยู คนไทยเรียก สัพพัญญู ซึ่งเป็นเจดีย์ที่สูงที่สุดในพุกาม มี 5 ชั้น ด้านในวิหารจะมีมุขยื่นไปทางตะวันออกด้านเดียว และมีความสูงหลายระดับ มีบันไดทางขึ้นด้านบนสำหรับถ่ายรูปมุมสูง ด้วยเกิดรอยร้าวภายในวิหารเกรงว่าจะไม่ปลอดภัยในปัจจุบันจึงได้ปิดลูกกรงไว้ไม่ให้ขึ้น
เมื่อเดินเข้ามาด้านในวิหารจะมีพระพุทธรูปเป็นระยะๆ
ด้านนอกวิหารจะมีเจดีย์ใหญ่สูงชันเท่าที่ดูด้วยตาและสัมผัสด้วยตัวเองแล้วกว่าจะปีนขึ้นไปมีขาสั่นกันบ้างหล่ะตามตำนานกล่าวไว้ว่าในตอนขนอิฐมาสร้างวิหารใหญ่ อิฐทุก ๆ 10,000 ก้อน จะถูกดึงออกมาไว้ 1 ก้อนเพื่อสร้างเจดีย์แห่งนี้ ฝรั่งเรียกเจดีย์แห่งนี้ว่า Tally Pagoda
เจดีย์ชเวซานดอร์ ซึ่งตั้งอยู่ท่ามกลางทะเลเจดีย์นับร้อยนับพัน ตัวฐานเจดีย์เป็นสีเหลี่ยม มีบันไดขึ้น 4 ด้าน ความสูง 5 ชั้น แต่ละชั้นมีทางเดินโดยรอบ
เจดีย์ชเวซานดอร์ จึงเป็นอีกหนึงเจดีย์ยอดฮิตที่นักท่องเที่ยวนิยมมานั่งชมและถ่ายรูปพระอาทิตย์ขึ้นและลง ในจุดนี้จะสามารถมองเห็นทะเลเจดีย์ได้อย่างชัดเจนถ้าจะนั่งรอชมพระอาทิตย์ตกดินพร้อมทะเลเจดีย์หล่ะก็ แนะนำให้มาถึงเสียแต่เนิ่น ๆ เพราะนักท่องเที่ยวเยอะเหลือกิน ต้องจองมุมดี ๆ เพื่อให้ได้ภาพที่สวยงาม
ตะวันใกล้จะลับขอบฟ้าแล้ว ยังพาเที่ยวไม่ครบเลย ก็มีเยอะซ่ะขนาดนั้นวันเดียวเที่ยวไม่หมดแน่ ๆและสำหรับท่านที่สนใจกรุ๊ปส่วนตัว แนะนำที่ พุกาม เลยค่ะเที่ยวซักวันสองวัน เพื่อซึมซับบรรยากาศให้ทั่วก่อนที่ซากแห่งอดีตจะค่อย ๆ เลือนหายไปตามกาลเวลา
ที่มา : www.thoongtongtour.com
.jpg)
.png)
**************************************************
บริการจัดทัวร์
ทัวร์เชียงตุง ทัวร์เมืองยอง ทัวร์สิบสองปันนา ทัวร์คุนหมิงจีน ทัวร์หลวงพระบาง ทัวร์วังเวียงลาว ทัวร์มัณฑเลย์ ทัวร์พุกาม ทัวร์ทะเลสาบอินเล ทัวร์ตองจี ทัวร์รัฐฉาน
ทัวร์เชียงตุง ทัวร์เมืองยอง ทัวร์สิบสองปันนา ทัวร์คุนหมิงจีน ทัวร์หลวงพระบาง ทัวร์วังเวียงลาว ทัวร์มัณฑเลย์ ทัวร์พุกาม ทัวร์ทะเลสาบอินเล ทัวร์ตองจี ทัวร์รัฐฉาน
บริษัท เชียงตุงเรียลเอสเตท แอนด์ ทราเวล จำกัด
เลขที่ใบอนุญาต 21/00833
โทร : 092-891-2277,093-2537733,053-727255
ไลน์ไอดี : @chiangtung
เว๊ปไซค์ : Chiangtungbiz.com
youtube:http://bit.ly/2HDFdMO
บทความที่คุณอาจสนใจ
เจ้านางบัวสวรรค์
เจ้าน้อยผู้มีตัวตนจริงในประวัติศาสตร์ กับโศกนาฏกรรมรัก "มะเมียะ" ที่คนไทยไม่เคยลืม
-เรียนรู้ประวัติศาสตร์ "คนเมือง" ในเวียงเชียงใหม่
